ดอกมะลิ สรรพคุณเลอค่า ที่มากกว่าเป็นแค่ดอกไม้
ดอกมะลิ จัดเป็นพืชดอกที่ให้ความหอมละมุน ที่มีกลีบสีขาวนวลอันบริสุทธิ์ และในประเทศไทย ก็นำเอาดอกมะลิมาใช้เป็นสัญลักษณ์วันแม่ ที่เปรียบดั่งความรักของแม่ที่มีให้กับผู้เป็นลูกไม่มีเสื่อมคลาย และคนไทยยังนิยมดอกมะลิมาร้อยเป็นมาลัยเพื่อบูชาพระ ถือได้ว่าเป็นดอกไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง
นอกจาก ดอกมะลิ ที่เรารู้จักในเรื่องของความหอมแล้วนั้น ดอกมะลิยังมีสรรพคุณทางยาและดีต่อสุขภาพที่ใครหลายๆคนอาจยังไม่ทราบ วันนี้ผู้เขียนจะพาท่านผู้ชมมารู้จักกับสรรพคุณของเจ้าดอกมะลิกันค่ะ ว่ามีประโยชน์มากแค่ไหน
ดอกมะลินั้น จัดได้ว่าเป็นไม้พุ่มและไม้เลื้อยและมีอยู่ทั่วไปทุกภาค ของประเทศไทย และมีหลากหลายสายพันธุ์ โดยมีการเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Jasmine
ดอกมะลิที่เรารู้จัก มี 2 แบบ คือ
1.มะลิลา ที่มีกลีบดอกชั้นเดียว
2.มะลิซ้อน จะมีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น
สรรพคุณของดอกมะลิ
1.บำรุงหัวใจ เพราะดอกมะลินั้น จัดเป็นยารสหอมเย็น ทำให้ชื่นใจ แก้อาการอ่อนเพลีย ชูกำลัง แก้ร้อนในกระหายน้ำ
2.แก้ปวดหัว คลายเครียด ในดอกมะลินั้น มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งจะถูกนำมาใช้เป็นตัวกระตุ้นระบบประสาทสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าอ่อนล้าทางจิตใจ ง่วง อ่อนเพลีย ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากความเครียด อีกทั้งยังช่วยให้บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น
3.ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ เจ้าดอกมะลิจัดว่ามีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดอุณหภูมิที่สูงภายในร่างกายได้
4.ขับประจำเดือน โดยส่วนที่นำมาใช้นั้น ไม่ใช่ดอกนะค่ะ แต่เป็น “ราก” รากของดอกมะลินั้นช่วยขับประจำเดือน และช่วยขับน้ำคาวปลา และขับเลือดได้
5.แก้ร้อนใน บรรเทาอาการเสียดท้อง และรักษา หลอดลมอักเสบ ได้อีกด้วย
6.รักษาผื่นคัน แผลพุพอง แผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง และโรคผิวหนังจะหายไวขึ้น
7.ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
8.ใช้ชงเป็นยาหอม ทำให้รู้สึกสดชื่น
บทความนี้ ผู้เขียนจะพาไปทำ ชาดื่มง่าย ๆ ใน วันแม่ หรือท่านผู้อ่านที่ชื่นชอบการ ทาน ชาดื่มเองที่บ้าน ก็สามารถนำไปทำ ชาดื่ม กันได้ทุกวัน เลยนะคะ ผู้เขียนก็ขอเสนอ สูตร ชาที่ทำจากดอกมะลิ สามารถทำได้ง่ายๆ ไปดูกันเลยค่ะ
“มาจิบชาไปพร้อมๆ กับคุณแม่ในวันแม่ปีนี้กันดีกว่า”
ส่วนผสมในการทำชาดอกมะลิ
1.ดอกมะลิ
2.น้ำร้อน 1 ถ้วยชา
3.น้ำตาล หรือ น้ำผึ้งตามชอบ
วิธีทำชาดอกมะลิ
- เลือกดอกมะลิลา หรือ ดอกมะลิซ้อน นำมาล้างให้สะอาด
- นำดอกมะลิที่ล้างสะอาดแล้ว ไปผึ่งบนกระจาดจนสะเด็ดน้ำ นำไปตากแดดอ่อนๆ และเลือกเด็ดเฉพาะกลีบ
- เมื่อกลีบแห้งสนิทดีแล้ว เก็บใส่ขวดโหลสุญญากาศ หลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และความชื้น
- เมื่อต้องการจะชงชาดอกมะลิ ให้นำช้อนตักชาลงไปในแก้ว จากนั้นเติมน้ำร้อนลงไป
- แช่ดอกมะลิทิ้งไว้ ประมาณ 3-4 นาที แล้วกรองเอาดอกมะลิออก
- หากชอบให้มีรสหวาน ก็สามารถเติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเพิ่มเติมตามใจชอบได้
เพียงเท่านี้ ก็จะได้ชาดอกมะลิจากฝีมือเราเอง แถมมีประโยชน์ ไว้ดื่มกับคุณแม่แล้วค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ หลังจากได้ทราบ ถึงประโยชน์ ของดอกมะลิ และการนำมาใช้เพื่อให้เกิดผลดีในการดูแลสุขภาพ ซึ่งประเทศไทยนั้น ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีความได้เปรียบด้าน ทรัพยากร ที่มีความหลากหลาย อีกทั้งยังมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในเรื่องการนำสมุนไพร มาใช้ประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพ ของประชาชนในประเทศ ซึ่งเรา ๆ เอง ซึ่งถือว่าเป็นผู้ได้รับมรดก ทางวัฒนธรรม ของบรรพบุรุษ เราทุกคนก็ควรมีความยินดี ความภาคภูมิใจ และช่วยกันดำรงรวมถึงการเก็บรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมอันเป็นประโยชน์ต่อต่อคนรุ่นหลัง ต่อไป
facebook fanpage Golden Horse
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, สารานุกรมเสรี
ข้อมูลทางวิชาการ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
มะลิมีทั้งชนิดไม้ผลัดใบและไม้ไม่ผลัดใบที่ลำต้นตั้งตรงหรือกางออก หรือเป็นไม้พุ่มและไม้เถา ใบเรียงใบแบบตรงข้ามหรือเรียงใบแบบสลับ สามารถเป็นใบเดี่ยว มีสามใบ หรือเป็นแบบขนนก ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 2.5 ซม. (0.98 นิ้ว) มีสีขาวหรือเหลือง บางชนิดมีสีแดงเรื่อ ดอกแบบช่อกระจุก หนึ่งกระจุกมีอย่างน้อยสามดอก บางชนิดเป็นดอกเดี่ยวที่ปลายแขนง แต่ละดอกมี 4 – 9 กลีบดอก มี 2 ช่อง และ 1 – 4 ออวุล มีเกสรเพศผู้ที่มีก้านชูอับเรณูสั้นๆ 2 เกสร ใบประดับรูปแถบหรือรูปไข่ วงกลีบเลี้ยงรูประฆัง ดอกมีกลิ่นหอม ผลแบบเบอร์รี เปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อสุก
