ยาแก้ไอ ฉบับโบราณ
อาการไอ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านประสบการณ์ อันน่าทุกข์ใจ หากเป็นการไอธรรมดาแบบระคายเคืองคอ แล้วนั้น ก็ไม่ต้องเป็นที่กังวล แต่หากมีอาการไอ แบบติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ หรือเข้าขั้น ไอเรื้อรัง และยิ่งต้องตื่นขึ้นมาไอ ในเวลากลางคืน จนไม่สามารถนอนได้ ก็คงไม่ดีแน่ ดังนั้นน้องรักสุขภาพจะพามารู้จัก กับสมุนไพรที่เชื่อว่าเป็น ยาแก้ไอ ขนาดแท้ และ ตำรับยาสมุนไพรโบราณกันค่ะ
1.มะแว้งเครือ
ใน ตำราไทย ใช้ผลสดแก้ไอขับเสมหะ รักษาเบาหวาน ขับปัสสาวะ มีการทดลองในสัตว์ พบว่าน้ำสกัดของผล มะแว้งเครือ มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด แต่มีฤทธิ์น้อย และระยะเวลาการออกฤทธิ์สั้น มะแว้งต้นเป็นส่วนผสมหลัก ใน ยาปะสะแว้ง ซึ่งองค์การเภสัชกรรมผลิตขึ้นตามยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ ใช้เป็นน้ำกระสายยากวาดแก้ไอ ขับเสมหะ รับประทาน เคี้ยว แล้วกลืนทั้งน้ำและเนื้อ รับประทานบ่อย ๆ แก้ไอแล้วโรคหอบหืดได้ดี
ส่วนผลของ มะแว้งเครือ นั้น ใช้รับประทานเป็นอาหารกับน้ำพริก แต่นิยมน้อยกว่ามะแว้งเครือ ลูกมะแว้งต้นมีวิตามินเอ ค่อนข้างสูง ชาวกะเหรี่ยงมักนำผลมาใส่แกงหรือน้ำพริก
2.เพกา
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า การรับประทานฝักเพกาหรือยอดอ่อนยังสามารถช่วยลดคอเรสเตอรอลในกระแสเลือดได้ ในงานสาธารณสุขมูลฐาน เมล็ดเพกาเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่กำหนดเพื่อใช้บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ โดยนำเมล็ดแก่ ประมาณครึ่งกำมือถึงหนึ่งกำมือ (1.5 – 3.0 กรัม) ใส่ในหม้อ เติมน้ำ 300 มิลลิลิตร ต้มไฟอ่อน ๆ พอเดือดประมาณ 1 ชั่วโมง ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3 ครั้ง จนอาการไอดีขึ้น
3.ดีปลี
ประโยชน์ของดีปลีมีหลากหลาย ดีปลีมีสรรพคุณช่วยขับลม บำรุงธาตุ แก้จุกเสียด ตามรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า ดีปลีใช้ประกอบตำรับยาที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ท้องอืดเฟ้อ ธาตุไม่ปกติ ทั้งนี้เพราะดีปลีมีน้ำมันหอมระเหย
ผลแก่แห้งของดีปลี ใช้เป็นยารักษาอาการดังนี้ อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการปวดท้อง รวมทั้งแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ที่เกิดจากธาตุที่ไม่ปกติ โดยการใช้ผลแก่แห้ง 1 กำมือ (ประมาณ 10-15 ดอก) ต้มเอาน้ำมาดื่ม ส่วนที่นำมาใช้เป็น ยาแก้ไอ และมีเสมหะ นั้น ใช้ผลแก่แห้งประมาณครึ่งผล ฝนกับน้ำมะนาวผสมเกลือกวาดในลำคอ หรือ จิบ บ่อย ๆ นอกจากนี้ ผลดีปลีแห้งสามารถใช้เป็นเครื่องเทศประกอบอาหารต่าง ๆได้
4.มะนาว
ชื่อนี้ได้ยินจนคุ้นหู และอยู่ใกล้ตัว แต่ถูกมองข้าม มะนาวลูกเล็ก ๆ แต่ ประโยชน์ มหาศาล มะนาวเป็นผลไม้ที่มีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิก วิตามินซีจากน้ำมะนาว ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว มีวิตามินเอและซี ทั้งยังมีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย
มะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพร ใช้เป็น ยาแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ อาการเลือดออกตามไรฟัน หรือเหงือกบวม
5.มะขามป้อม
หากจะไม่กล่าวถึงพืชสมุนไพรตัวนี้ ก็คงจะไม่ได้ มะขามป้อม หรือ มะขามป้อมอินเดีย เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก ๆ และมีคุณค่าทางสมุนไพรอีกด้วย มะขามป้อมจัดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด เพราะมะขามป้อมลูกเล็ก ๆเพียงลูกเดียว ให้วิตามินซีสูงกว่าวิตามินซี สังเคราะห์ถึง 12 เท่า และมากกว่าน้ำส้มคั้นถึง 20 เท่า ว้าวววว
การใช้ประโยชน์จากมะขามป้อมนั้น คือนำมารับประทานเพื่อบรรเทาหวัด ใช้เป็น ยาแก้ไอ และละลายเสมหะได้ มะขามป้อม มีสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านออกซิเดชัน ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และยับยั้งการสร้างเมลานิน ทั้งยังสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ได้
- การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ แต่หากมันเกิด ก็ต้องรักษา
ตำรับยา เทวดาบอก อ้างอิงจาก 400 ตำรับยาเทวดาบอก
ตำรับยารักษาอาการไอ
ให้ใช้ 2 สิ่งนี้ เพื่อเป็นส่วนผสมในตำรับยา
1.น้ำผึ้งแท้
2.น้ำมะนาว สด
วิธีปรุงยา
ผสมน้ำมะนาว กับ น้ำผึ้งแท้ เข้าด้วยกัน แล้วนำมาดื่มให้หมดในครั้งเดียว อาการไอจะทุเลา ดีขึ้น นักแล
ตำรับยานี้จารึกโดย หลวงปู่ศุข จ.ชัยนาท
facebook fanpage Golden Horse
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
พบแพทย์
สารานุกรมเสรี วิกิพีเดีย
ข้อมูลภาพ
เกษตรบ้านอะลาง
ฟรามเกษตร
HONESTDOCS
